เรามาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มขายของในอีคอมเมิร์ซมีอะไรบ้าง
ก่อนอื่น มาเริ่มจากการทำความเข้าใจในธรรมชาติของช่องทางนี้กันก่อน
- ตลาดออนไลน์เป็นสถานที่ที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกที่ ที่มีอินเทอร์เน็ต
- สามารถเปิดให้บริการ 24 ช.ม. และวางสินค้าขายได้ไม่จำกัด (เว้นแต่ระบบจำกัดสิทธิ์ของร้านค้าไว้)
- สิ่งสำคัญในการขายออนไลน์คือ สินค้า ราคา และ บริการ (คุณภาพสินค้าและหีบห่อที่ได้รับ, ความรวดเร็วในการจัดส่ง)

เช็คลิสก่อนเริ่มขายสินค้า
- คู่แข่งในตลาด ขายสินค้ากันที่ราคาเท่าไหร่ ข้อนี้สามารถเช็คกันได้ง่ายๆในระบบแค่ค้นหาสินค้าประเภทที่เราจะขาย จะเห็นเลยค่ะว่าคนอื่นเขาขายกันที่ราคาเท่าไหร่ เรทติ้งโอเครึเปล่า
- สินค้าเรามีต้นทุนที่เท่าไหร่ คิดแล้วส่วนต่างกำไรได้กี่บาท กี่ %
- ค่าธรรมการขายมีอะไรบ้าง เท่าไหร่ **ส่วนนี้สำคัญมากนะคะ ถ้าคิดไม่ดีเกิดสินค้าเรากำไรน้อยอยู่แล้ว อาจจะกลายเป็นขาดทุนได้ (ค่าธรรมเนียมจะมีการปรับเพิ่ม / ลง ขึ้นอยู่กับแคมเปญเข้าร่วมและประเภทร้านค้า)
- กรณีขายของกิน ควรดูเรื่องการจัดส่งสินค้าด้วยว่าใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ หรือจะส่งเอง
- ภาษี ควรบวกเผื่อไว้ในการขายสินค้าทุกชิ้น แม้บางร้านอาจจะมองว่ารายได้ยังไม่เยอะ แต่ยังไงปกติสินค้าต้องมีบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว
รายละเอียดค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มต่างๆ
Shopee
สำหรับผู้ขายที่ไม่ใช่ Shopee Mall: https://seller.shopee.co.th/edu/article/404
สำหรับผู้ขาย Shopee Mall: https://shopee.co.th/docs/6759
สูตรคำนวนกำไรการขายแบบคร่าวๆ
ราคาขาย – (ต้นทุน + ค่าธรรมเนียมการขาย + ภาษี) = กำไร **หากผู้ขายส่งเองต้องเพิ่มค่าขนส่งเข้าไปในวงเล็บ “()” ด้วย
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนอยากฝากไว้ว่า แม้การขายในอีคอมเมิร์ซอาจจะดูเหมือนเน้นการแข่งขันทางราคาอย่างหนักหน่วง แต่มันก็ไม่เสมอไป เพราะลูกค้าก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องอื่นๆด้วย เช่นคุณภาพสินค้าและบริการ นอกจากนี้การใช้วิธีตัดราคา ยังเป็นการทำให้ตลาดเสียสมดุลย์ซึ่งสุดท้ายทุกคนก็อยู่ไม่ได้กันหมดหากขายแล้วไม่มีกำไร