การคิดเชิงวิพากษ์ด้วยการตั้งคำถามแบบ 5W1H
(Critical Thinking with 5W1H)
การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) หมายถึง การคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผลและข้อมูล เพื่อตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยไม่คล้อยตามสิ่งที่ถูกนำเสนอเพียงเพราะได้ยินมา แต่ตั้งคำถามหรือโต้แย้ง เพื่อเป็นแนวทางในการหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมากกว่าสมมุติฐานเดิม
ทีนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการคิดแบบ 5W1H จะช่วยเราในเรื่องข้างต้นได้อย่างไร
5W1H ประกอบไปด้วย

- What: อะไรที่จะมาตอบโจทย์เป้าหมายหรือปัญหาที่เกิดขึ้น, เราสามารถทำอะไรได้บ้าง
- Who: ใครเกี่ยวข้อง, ใครคือเป้าหมาย, ใครต้องเป็นคนทำ, ใครได้รับผลประโยชน์, ใครได้รับผลกระทบ
- Where: เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน, เราจะทำมันที่ไหน
- When: เราจะทำสิ่งนี้เมื่อไหร่, ช่วงไหน
- Why: เพราะเหตุใดเราถึงทำสิ่งนี้, สิ่งที่จะทำช่วยแก้ปัญหาได้ยังไง, เราทำไปเพื่ออะไร
- How: เราจะทำสิ่งนี้อย่างไรให้บรรลุผล
**คำถามไม่จำเป็นต้องเรียงตามตัวอย่างและบางเรื่องก็อาจจะซ้อนทับกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการหาคำตอบ**
เทคนิค 5W1H เป็นการใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหา และใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนาสิ่งต่างๆ ด้วยการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบในแต่ละประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทำให้เห็นองค์รวมของสิ่งที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ไข ทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้กับสถานการณ์ได้หลากหลายรูปแบบ โดยการจำแนกองค์ประกอบของสิ่งต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น และในขณะเดียวกันก็นำมาหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบเหล่านั้น
ประโยชน์ของการคิดวิเคราะห์แบบ 5W1H
1. ทำให้รู้ข้อเท็จจริง รู้เหตุผลเบื้องหลังของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจที่มาที่ไปของเหตุการณ์นั้น
2. ใช้เป็นฐานความรู้เพื่อนำไปต่อยอดในการตัดสินใจแก้ปัญหา
3. ช่วยในการกำหนดขอบเขตของงานที่จะต้องลงมือทำ
4. ช่วยในการหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
5. ช่วยในการประเมินความเป็นไปได้ของสิ่งที่จะลงมือทำ
ตัวอย่างการวิเคราะห์ด้วย 5W1H
**การจะใช้ให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องตั้งคำถามให้ตรงกับเป้าหมาย*
หัวข้อ: การออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย
คำถามที่หนึ่ง W – What – ความต้องการที่มีในตลาดคืออะไร? รูปแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าต้องการคืออะไร? สินค้าแบบไหนที่จะมาตอบโจทย์ตรงนี้ได้?
คำถามที่สอง W – Who – กลุ่มลูกค้าที่เราต้องการดึงดูดคือใคร? ลักษณะคนกลุ่มนี้เป็นยังไง? เช่น พฤติกรรม, เพศ, อายุ, การศึกษา, อาชีพ, เงินเดือน, ศาสนา, ฯลฯ ใครบางที่เกี่ยวข้องในการออกสินค้าใหม่?
คำถามที่สาม W – Where – กลุ่มลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน? เราจะใช้ช่องทางไหนในโปรโมทและขายสินค้าให้ลูกค้า? เราจะสามารถรับรู้ความต้องการของลูกค้าผ่านช่องทางไหน?
คำถามที่สี่ W – When – เราควรโปรโมทสินค้าเมื่อไหร่? สินค้าควรออกสู่ตลาดเมื่อไหร่? สินค้าควรเริ่มกระจายเมื่อไหร่เพื่อให้ทันกับเวลาวางจำหน่าย? โปรเจคควรเริ่มเมื่อไหร่เพื่อให้ทันกับเวลาวางขายสินค้า?
คำถามที่ห้า W – Why – ทำไมเราถึงเลือกออกสินค้าตัวนี้? ทำไมเราถึงต้องเป็นลูกค้ากลุ่มนี้? ทำไมลูกค้าถึงต้องมาซื้อของเรา? ทำไมเราถึงเลือกช่องทางที่คิดไว้ในการขายสินค้า?
คำถามสุดท้าย H – How – การผลิตสินค้าใหม่ต้องทำยังไง ต้องการอะไรบ้าง? ทำยังไงให้ลูกค้าซื้อสินค้า? ทำยังไงให้กลับมาซื้อซ้ำ? เช่น รูปแบบ รสชาติ และหน้าตาของสินค้า, การสร้างความสัมพันธ์และติดต่อสื่อสารกับลูกค้า, ฯลฯ